การใช้ค่า CD4 ลิมโฟซัยท์ในการติดตามผู้ป่วย

Posted on วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 by Athi's PHA

การติดเชื้อ HIV ทำให้เกิดพยาธิสภาพมากมายในคนไข้ เซลล์เป้าหมายที่สำคัญของเชื้อ HIV ที่เข้าไป เจริญเติบโตและแบ่งตัวทำลายเซลล์ คือ เซลล์ลิมโฟซัยท์ชนิด CD4 จะทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือที่เรียกว่าโรคเอดส์ในที่สุด การลดจำนวนลงของเซลล์ CD4 เป็นตัวบ่งชี้ถึงความรุนแรงในผู้ป่วย เป็นอย่างดี
เราสามารถแบ่งการลดลงของ CD4 ลิมโฟซัยท์ได้เป็น 4 ระยะด้วยกัน คือ
ระยะที่ 1 ซึ่ง มักเกิดขึ้นภายหลังจากการรับเชื้อ HIV แล้วเกิด seroconversion ภายใน 6 ถึง 18 เดือน ระดับของ จำนวน CD4 จะลดจากระดับปรกติประมาณ 1,000 เซลล์ต่อลบ.มม. ลงมาเป็น 600 เซลล์ต่อลบ.มม.
ในระยะที่ 2 นั้น ระดับของจำนวน CD4 ลิมโฟซัยท์ จะอยู่ในระดับค่อนข้างคงที่ ระยะนี้อาจกินเวลา นานหลายๆ ปีทีเดียว หลังจากระยะนี้ไปแล้ว คนไข้จะเริ่มมีอาการต่างๆ ที่สัมพันธ์กับโรคเอดส์ เรียก
ระยะที่ 3 นี้ว่า ARC (AIDS Related Complex) ซึ่งจำนวน CD4 ลิมโฟซัยท์ จะลดลงอย่างรวดเร็ว จนเข้าระยะสุดท้ายคือเป็นโรคเอดส์เต็มขั้น ซึ่งคนไข้จะมีจำนวนเซลล์ CD4 ลดลง จนถึงแก่กรรม ซึ่ง จำนวนเซลล์ CD4 นั้น น้อยกว่า 100 เซลล์ต่อลบ.มม. และมีอัตราส่วนของเซลล์ CD4 ต่อ CD8 น้อยกว่า 0.2 ส่วนอัตราร้อยละของเซลล์ CD4 นั้น น้อยกว่า 10 ในระยะนี้คนไข้มักจะเสียชีวิตจาก โรคแทรกซ้อนต่างๆ
ดังนั้นการใช้ค่าของ CD4 จะเป็นประโยชน์ต่อการพยากรณ์การดำเนินของโรค และติดตามผลการรักษาได้ จากการศึกษาโดยการติดตามผู้ป่วยนาน 4 ปี พบว่าโอกาสที่ผู้ติดเชื้อ HIV จะเป็นโรคเอดส์เมื่อจำนวน CD4ลิมโฟซัยท์
•ต่ำกว่า 200 เซลล์ต่อลบ.มม. คิดเป็นร้อยละ 84
•200-299 เซลล์ต่อลบ.มม. คิดเป็นร้อยละ 41
•300-399 เซลล์ต่อลบ.มม. คิดเป็นร้อยละ 25
•มากว่าหรือเท่ากับ 400 เซลล์ต่อลบ.มม. คิดเป็นร้อยละ 18


หรือจากการศึกษาในคนไทยพบว่าถ้า CD4 ลิมโฟซัยท์ต่ำกว่า 200 เซลล์ต่อลบ.มม. ผู้นั้นจะมีโอกาสเป็นเอดส์เต็มขั้นภายใน 2 ปี มากกว่าคนที่ CD4 ลิมโฟซัยท์สูงกว่า 500 เซลล์ต่อลบ.มม. ถึง 12.3 เท่า และในกรณีที่มีการลดต่ำลงของจำนวน CD4 ลิมโฟซัยท์ต่ำกว่า 500 เซลล์ต่อลบ.มม. ผู้ป่วยจะมีโอกาสติดเชื้อฉวยโอกาสจากเชื้อต่าง ๆ ตามจำนวน CD4 ลิมโฟซัยท์ที่ลดลง นอกจากนี้ยังใช้ค่าของจำนวนเซลล์ CD4 เป็นเกณฑ์การตัดสินให้ยา ถ้าจำนวนเซลล์ CD4 ต่ำกว่า 500 เซลล์ต่อลบ.มม. ทางสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Instituteof Health) ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำว่าควรจะให้ยา Zidovudine (AZT) แก่คนไข้ แต่ถ้าจำนวน absolute ของเซลล์CD4 สูงกว่า 500 เซลล์ต่อลบ.มม. ก็ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้ยา หรือถ้าต่ำกว่า 200 เซลล์ต่อลบ.มม.ควรให้ยาป้องกัน Pneumocystis carinii เป็นต้น
การวัดหาระดับของเซลล์ CD4 ในคนที่ติดเชื้อ HIV นั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ จำนวน absolute ของเซลล์CD4 อัตราร้อยละของเซลล์ CD4 และอัตราส่วนของเซลล์ CD4 ต่อเซลล์ CD8 ในการตรวจนับจำนวนเซลล์ CD4นั้นต้องอาศัยชุดน้ำยาตรวจทีมีขายสำเร็จ เช่น ELISA Kit หรืออาจใช้เครื่องมีอที่เรียกว่า “โฟลไซโตมิเตอร์”(Flow cytometer) หริอ เรียกว่า FACScan





0 Responses to "การใช้ค่า CD4 ลิมโฟซัยท์ในการติดตามผู้ป่วย":

ถ้าผมออนอยู่ทักมาได้นะ

msn : athipha[@]windowslive.com